วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2559

การเดินทาง และการค้นหา ครูบาอาจารย์ที่ใช่...

ครั้งกาลเริ่มต้น...
2535 พ.ศ.เริ่มศก หลังพฤษภาทมิฬ ข้าพเจ้าเป็นนักศึกษาปีที่2ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้วยความที่เรียนไปด้วย ทำงานพิเศษและหลังจากอบรมมัคคุเทศก์ ได้หาทางเตรียมที่จะให้ตัวเองเรียนให้จบมหาลัย จึงตกลงใจเข้าสมัครติววิชาภาษาอังกฤษกับติวเตอร์หน้ามหาลัยณ.ที่นั้นข้าพเจ้าได้เจอกับเพื่อนกัลยาณมิตร ได้ชวน ให้เข้าไปสวดมนต์ทำกิจกรรม กับชมรมพุทธ ซึ่งก็ชอบมากเพราะได้รู้จักเพื่อนเพิ่มมากขึ้น และได้มีโอกาส ได้ไปนั่งสมาธิทุกวันพุทธที่บ้านมธุระ ซอยลาดพร้าว81 สมัยก่อน จนจบมหาลัย ปี 2537 ความประทับใจในการที่เข้าชมรมพุทธคือ เพื่อนๆ ในชมรมพุทธ ดูใสๆ ไม่เกเร ไม่ชวนเล่นไพ่ หลังมหาลัย ชวนกันสวดมนต์ ทำวัตน์เย็น และ จัดพิธีกรรม สำคัญเช่นจัดธุดงค์  พิธีใหว้ครูเป็นที่ประทับใจมาก 
จนเรียนจบก็ห่างหายไม่ค่อยได้แวะเวียนเข้าวัดและชมรมพุทธ เพราะภาระกิจทางโลก ทำงาน เรียนภาษา เคยเล่าเรื่องการเข้าวัดพระธรรมกาย ให้เพื่อนๆที่ทำงานมัคคุเทศก์ ด้วยกันเข้า ไม่ชอบวัด แต่เราเฉย ก็งง ว่าทำไมเขาไม่ชอบวัด  
หายไปสองปี ที่ไม่ได้เข้าวัดเลยแต่ก็ยังมีเพื่อนกัลยาณมิตรค่อยพื่อตามมาอยู่ด้วย ค่อยบอกว่า เอาบุญมาฝากเวลาเขากลับจากวัดทุกวันอาทิตย์ 
จนปีทีีประสบปัญหา สุขภาพและเครียดกับการทำธุรกิจเสริม ได้มาบวชอุบาสิกาแก้วแสนคนรุ่นแรก หลังจากที่ไม่ได้เข้าวัดมานาน ตกใจมาเห็นสภาธรรมกายสากล หลังใหญ่ จากที่เคยมาวัดช่วงที่สภายังเป็นหลังคาจาก และบางครั้งที่มาก็มานั่ง กลางลาน ที่มีซาแลงเป็นหลังคามุง และพื้นเป็นหินและดินก้อนกรวดตรงสถานที่ที่สร้างสภาธรรมกายสากล และช่วงที่มาบวชอุบาสิกาแก้วรุ่นแรกในปีนั้น รู้สึกมีความสุขมากถึงจะนอนบนพื้นท่ามกลางเพื่อนนับแสนคน แต่จิตใจกลับเงียบสงบ รู้สึกทึ่งมากๆ ที่วัดจัดระเบียบ และ สร้างความสงบได้แม้จะมีคนเป็นแสนคน หลังจากนั้น ทำให้ตัดสินใจเอาปัจจัยที่เก็บใว้ มาทำบุญก้อนแรก ที่วัด เพราะอยากบูชาธรรมหลวงปู่สด สร้างพระแกนกลาง...เพราะเห็นประโยชน์ว่าวัดจะเอาปัจจัยที่ได้จากเรามาสร้างงานในพุทธศาสนา และก็ได้จริง ดังที่เห็นได้จากที่ข้าพเจ้าได้ หายไปจากวัดสองปีจากที่เคยนั่งบนก้อนกรวดหลังคามุงซาแลง กลับ เป็นสภาหลังใหญ่ ลาดปูน หลังคามุงด้วยวัสดุที่คงทน เสาแต่ละต้นใหญ่มาก เกินกว่าจะคาดคิด..
มีต่อตอนต่อไปคะ

2 ความคิดเห็น: